วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่ เป็นอาหารพื้นบ้านที่เข้มข้นในรสกะทิและสมุนไพรอย่าง ข่า ตะไคร้ ที่มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับของสมุนไพรไทย เข้ากันกับกะทิ รสชาติหวาน มัน เปรียว เผ็ด เรียกว่าเป็นต้มยำเลยก็ว่าได้

ส่วนผสมและวัตถุดิบ

  • เนื้อน่องไก่หั่น 350 กรัม
  • กระทิ 2 1/2 ถ้วยตวง (แบ่งทำเป็นหางกะทิโดยผสมน้ำเปล่า)
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข่า 1 หัว
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูต ใบมะกรูด 6-7 ใบ
  • พริกชี้ฟ้าแดง ผักชี
  • พริกขี้หนูสวน แล้วแต่ความเผ็ดที่ชอบ
  • เห็ดฟาง,เห็ดนางฟ้า หรือแล้วแต่ชอบ 300 กรัม
  • มะเขือเทศ 1 ลูก
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สามารถเพิ่มได้ตามความหวานที่ต้องการ)
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปไก่)

    วิธีทำต้มข่าไก่

  • 1. เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง นำหางกะทิและน้ำเปล่า 1 ถ้วยใส่ลงหม้อ รอจนเดือดจึงใส่ข่า ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป เคี่ยวไปประมาณ 10 นาที

    2. ใส่เนื้อไก่ลงไป รอจนเนื้อไก่เริ่มสุกจึงใส่เกลือป่นลงไป คนให้เข้ากัน
    3. ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำเปล่าลงไปอีก 1 ถ้วย รอซักพักจนน้ำแกงเดือด
    4. ใส่เห็ดและคนให้เข้ากัน พอเห็ดใกล้สุกให้ใส่มะเขือเทศลงไป แล้วปิดเตาได้
  • 5. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

แกงเห็ด

เย็นนี้ทำแกงเห็ดตามคำเรียกร้อง แต่เป็นแบบแกงลาวค่ะ แกงเห็ดนี่แต่ละคนก็แกงไม่เหมือนกัน
แต่ที่เรารับมาสูตรนี้ต้นหอม หอมแดงไม่ต้องใส่ลงไปเลยนะคะ ผิดกลิ่น
ที่ขาดไม่ได้เลยก็ตะไคร้ ใบแมงลัก เคยเห็นบางคนใช้ใบกะเพรา ไม่ได้เลยค่ะ ผิดกลิ่นสุดๆ
ใจจริงอยากกินเห็ดพื้นบ้านเรามากค่ะแต่หาไม่ได้
เห็ดเผาะที่นี่ก็มีแบบบรรจุขวดโหล แต่ยังไงรสชาตก็ไม่เหมือนกับเห็ดเผาะสดๆบ้านเรา
เครื่องปรุง
  1. เห็ด วันนี้ได้เห็ดหอมสด เห็ดชิเมจิ ส่วนเจ้าเห็ดสีขาวๆไม่แน่ใจว่าชื่ออะไรค่ะ
  2. น้ำย่านาง
  3. ตะไคร้ทุบ หั่นท่อน
  4. พริกสด 3-4 เม็ด
  5. ใบแมงลัก
  6. ใบส้มลม
  7. เกลือนิดหน่อย
  8. น้ำปลาร้า
  9. น้ำปลา
  10. วิธีทำ
    • ต้มน้ำย่านางกับพริกบุบหยาบ และตะไคร้ อย่าใช้น้ำย่านางเยอะเพราะน้ำจากเห็ดจะออกมาหลังจากแกงได้สักครู่
    • เมื่อน้ำเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า เกลือหนึ่งหยิบ และน้ำปลา
    • ใส่เห็ดลงไป รอให้สุก
    • เห็ดสุกแล้วใส่ใบส้มลม ถ้ามีฟองคอบช้อนฟองออก

แกงส้ม


วิธีทำแกงส้มผักรวม สูตรอาหารไทย เมนูแกง เมนูปลา เมนูสุขภาพ ส่วนผสมสำหรับทำแกงส้มผักรวม อาหารไทย ขั้นตอนการทำอาหารไทย แกงส้ม ผัก

ส่วนผสมสำหรับทำ แกงส้มปลาช่อนผักรวม

ปลาช่อนหั่นเป็นท่อนๆ 1 ถ้วย
น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต้ะ
ผักกวางตุ้งหั่นทอน 200 กรัม
หัวไชเท้าหั่น 2 ชิ้น
ถั่วฝักยาวหั่นพอคำ 5 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
ผักกาดขาว หั่นเป้นชิ้นพอคำ

วิธีทำแกงส้มปลาช่อนผักรวม

1. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ปลาช่อนลงไปต้มจนสุก
2. นำปลาช่อนพักไว้ก่อน และแกะเนื้อออกมาโขรกกับน้ำพริกแกงส้มให้เข้ากัน
3. นำน้ำพริกแกงที่โขรกกับเนื้อปลาช่อน ลงไปต้ม จากนั้นเพิ่มไฟให้แรงจัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะขามเปียก
4. ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไปต้ม และเสริฟใส่ชาม ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

แกงไตปลา


คุณค่าทางโภชนาการ(สำหรับ 1 คน)
พลังงาน 84 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม
โปรตีน 15 กรัม
ไขมัน 1 กรัม
แคลเซียม 258 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 203 มิลลิกรัม
วิตามินซี 2 มิลลิกรัม

เครื่องปรุง
ไตปลา 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่าประมาณ 2-3 ถ้วย
ส้มแขก 3 ชิ้น
หรือมะขามเปียกคั้นน้ำ 1/4 ถ้วย
กุ้งสด 300 กรัม
ปลาย่างหรือปลากรอบ 100 กรัม
น้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูด 4 ใบ 

 วิธีโขลกน้ำพริกแกงไตปลา
1.พริกขี้หนูแห้ง แช่น้ำให้นิ่ม สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำใส่ครก
พร้อมกับพริกขี้หนูสด ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด พริกไทย โขลกให้ละเอียด
2.ใส่หอม กระเทียมและขมิ้น โขลกจนละเอียดใส่กะปิ โขลกจนเข้า
กันดีตักขึ้น
วิธีทำ
1.ใส่ไตปลาในหม้อพร้อมกับน้ำ ประมาณ 2 ถ้วย ตั้งไฟให้ละลาย กรองเอา
กากออกใส่น้ำพริกแกงละลายลงในหม้อแกง นำไปตั้งไฟจนเดือดทั่ว
2.ใส่กุ้งสดสับหยาบๆ ปลาย่างเช่น ปลาทู ปลาสีกุน ฯลฯ
หรือปลากรอบที่แกะเอาแต่เนื้อ
3. ใส่ส้มแขกหรือมะขามเปียก น้ำตาลปึก ชิมรสถ้ารสอ่อนให้เติมเกลือ
เมื่อรสดีแล้วใส่ผักต่างๆและใบมะกรูด
พอผักสุกยกลง
ผักที่ใช้รับประทานกับแกงไตปลา เช่น สะตอ ลูกเนียง ถั่วฝักยาว แตงกวา แตงร้าน ยอดกระถิน มะเขือเปราะ ขมิ้นขาว ผักกูด ใบบัวบก ฯลฯ

แกงเขียวหวาน

แกงเขียวหวานไก่ เป็นอาหารที่เป็นที่นิยมมาก โดยติดอันดับ 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างขาติชอบรับประทาน สีเขียวของแกงเขียวหวานได้มาจากน้ำพริกแกงเขียวหวาน ซึ่งใช้พริกสดสีเขียวเป็นส่วนผสม รสชาติกลมกล่อม ระดับความเผ็ดปรับลดได้ ตามปริมาณเครื่องแกงที่ใส่ลงไป เนื่องจากเป็นแกงกะทิ จึงควรรับประทานแต่พอดี ไม่อย่างนั้นจะมีผลต่อน้ำหนักตัวได้ แกงเขียวหวานนิยมรับประทานคู่กับขนมจีน หรือจะทานกับข้าวสวยเป็นกับข้าวก็ได้

 
 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เนื้อไก่ 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ)
* กะทิ 1 1/4 ถ้วยตวง
* ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
* มะเขือเปราะ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
* น้ำุซุปไก่ 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทรายธรรมดา)
* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
* พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด (หั่นเฉียง)
* ใบมะกรูด 4 ใบ

 วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (กระทิส่วนที่เหลือไว้ค่อยใช้ในขั้นตอนต่อไป) บนกระทะจนร้อน (ใช้ไฟปานกลาง) คนจนกระทิเดือดประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นใส่เครื่องแกงเขียวหวานลงไปผัดกับกระทิสักพักจนน้ำกระทิงวดลง จึงเทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อใหญ่
2. นำหม้อใบใหญ่ตั้งไฟปานกลาง ใส่เนื้อไก่และคนประมาณ 2 นาที จากนั้นใส่น้ำปลา, น้ำตาล คนต่อไปอีก 1 นาที ใส่มะเขือเปราะที่หั่นไว้แล้ว ใส่น้ำกระทิที่เหลือและใส่น้ำซุปไก่ ต้มต่อไปสักพักจนเนื้อไก่เริ่มสุก และมะเขือเปราะนิ่ม
 
3. ใส่ใบมะกรูดและใบโหระพา รอจนเดือด จากนั้นจึงปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิรฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และพริกน้ำปลา
หมายเหตุ : แกงเขียวหวานนอกจากจะนิยมรับประทานกับข้าวสวยแล้ว ยังนิยมทานกับขนมจีนอีกด้วย . . .
 


 


ผัดเปรี้ยวหวาน



ผัดเปรี้ยวหวานเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยม ที่หาทานได้บ้างตามร้านข้าวแกง ด้วยรสชาติที่ไม่เผ็ด และออกเปรี้ยวๆ หวานๆ จึงไม่น่าแปลกที่เด็กๆ จะชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ นอกจากเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไปแล้ว ส่วนผสมที่สำคัญยังมีหอมใหญ่, สัปปะรด และมะเขือเทศ ทำให้เป็นเมนูที่มีผักและเส้นใยอาหารที่พอดี ในบางครั้งอาจมีการใส่แตงกวาเพิ่มลงไปด้วย อันนี้แล้วแต่ ความชอบ สำหรับเนื้อสัตว์อาจเปลี่ยนเป็นไก่, กุ้ง หรือปลาหมึกก็ได้

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* หอมใหญ่ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* แตงกวา 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* พริกหยวก 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* กระเทียมสับ 4 กลีบ
* น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
* แป้งข้าวโพด 1.5 ช้อนโต๊ะ
   (นำไปผสมกับน้ำ คนให้ละลาย)

 เครื่องปรุง+ส่วนผสม กุ้งทอด (หรือหมูทอด) :
     * กุ้งขนาดกลาง 10 ตัว (ล้างและปอกเปลือก)
        (หรือ หมู 350 กรัม หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
     * แป้งอนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
     * น้ำเย็น 1 ถ้วยตวง
     * ไข่ไก่ 1 ฟอง
     * เกลือ 1/2 ช้อนชา
     * พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
     * น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ในชามขนาดใหญ่, ผสมเกลือ, กระเทียมและพริกไทยกับแป้งอเนกประสงค์ เทน้ำและไข่ไก่ลงไป ผสมจนเข้ากัน
2. นำุ้กุ้ง (หรือหมู) ลงไปชุบแป้งที่เตรียมไว้ และนำไปทอดจนเหลืองกรอบ นำไปวางบนกระดาษซับมันและเตรีึยมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
 
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลือง จากนั้นใส่แตงกวา, หอมใหญ่ และผัดจนเกือบสุกจึงใส่มะเขือเทศลงไปผัด
4. ใส่กุ้งทอด (หรือหมูทอด), น้ำส้มสายชู, น้ำปลา และน้ำตาล รสชาติดั้งเดิมจะีมีรสหวาน, รสเปรี้ยวและรสเค็มพอๆกัน
5. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเริ่มเดือด ใส่น้ำแป้งที่เตรียมไว้ คนเรื่อยๆเพื่อไม่ให้แป้งที่ใส่เกาะตัวเป็นก้อน เสร็จแล้วปิดไฟ และตักใส่จาน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ


ต้มซุปเปอร์ตีนไก่

อาหารรสแซบที่ครบรสทั้ง เปรี้ยว เผ็ด เข้ม หวาน กลมกล่อม แบบนี้ อาหารประเทศไหนจะสู้ได้นอกจากอาหารประเทศไทย และเมนูที่ครองใจคนชอบทานทั้งหลาย ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ต้มซุปเปอร์ตีนไก่ รสชาติซุปเปอร์สมชื่อ บางเจ้าก็เคี่ยวตีนไก่ได้เปื่อยยุ่ย และวิธีทำก็ไม่ยากอีกเช่นกัน เรามาดูวิธีทำ ต้มซุปเปอร์ตีนไก่
ส่วนผสม
  • ตีนไก่ ล้างสะอาด ตัดเล็กออก 1 กิโลกรัม
  • รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกละเอียด รวมกันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข่าแก่หั่นแว่น  5  แว่น
  • ขิงแก่ หั่นแว่น 5 แว่น
  • ใบมะกรูด
  • เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • เตรียม น้ำปลา มะนาว ผักชี พริกหนูทุบ ไว้ปรุงตอนตักเสริฟ
วิธีทำ ต้มซุปเปอร์ตีนไก่
  1. นำตีนไก่ที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว นำไปใส่หม้อ เติมน้ำเปล่าสะอาดให้ท่วมตีนไก่พอประมาณ
  2. หรือกลัวไม่เปื่อยให้ต้มน้ำแรกทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วเทน้ำทิ้ง แล้วนำมาต้มกับน้ำซุปโครงไก่
  3. ใสรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกระเอียด ตามด้วย ใบมะกรูด ข่า และ ขิง ตั้งไฟกลางจนเดือด
  4. เคี่ยวไปเรื่อยๆ และคอยช้อนฟอง ต้มไปเรื่อยๆ 1 – 2 ชั่วโมง และคอยเช็ดว่าตีนไก่เปื่อยดีหรือยัง ถ้ายังไม่เปื่อยก็เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปื่อย
  5. เตรียม น้ำปลา มะนาว พริกขี้หนูทุบ  ใส่ถ้วยที่จะเสริฟ ปริมาณตามความต้องการ อยากเผ็ด เปรี้ยว แค่ไหนก็ใส่ตามความชอบ โรยด้วยผักชี พร้อมเสริฟ

ไข่ตุ๋น

ไข่ตุ๋น เป็นเมนูที่ทานง่ายได้ประโยชน์ และทำง่ายอีกด้วย เมนูที่กินกันตั้งแต่เด็กๆ แต่มักประสบพบเจอว่าไข่ตุ๋นที่เคยกินที่บ้านนั้น เนื้อไม่เนียน ไม่น่าทานเอาเสียเลย พอไปเจอไข่ตุ๋นที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เนื้อเนียนน่ากิ๊นน่ากิน….. วิธีการทำไข่ตุ๋นนั้นไม่ยาก และทำให้ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกเช่นกัน แค่ขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆส่วนผสม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำซุป 1 ถ้วยตวง (หรือ 3เท่าของไข่)
  • ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
  • ซุปก้อนสำเร็จรูป ครึ่งก้อน
  • เห็ดหอม กุ้งสด ปูอัด หรือเครื่องเคียงต่างๆ ตามความชอบ
วิธีทำ
  1. เตรียมน้ำซุป ใช้ซุปก้อนผสมกันน้ำร้อน แล้วพักไว้ให้เย็น
  2. ตอกไข่ใส่ชาม ใช้วิธีคนให้เข้ากันเบาๆ ด้วยตะเกียบ ไม่ต้องตีแรง เดียวจะทำให้ไข่ตุ๋นไม่เนียน
  3. เติมน้ำซุปลงไปพร้อมกับปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  4. วิธีการที่ทำให้ไข่เนียน โดยใช้กระชอนตาถี่ กรองใส่ถ้วยที่จะนำไปนึ่ง
  5. ต้มน้ำให้เดือด นำไข่วางบนตะแกรงนึ่ง เมื่อไข่เริ่มจะสุกก็ใส่เครื่องเคียงวางไว้ด้านบน
  6. รอเวลาไข่สุก 10 – 15 นาที วิธีเช็คให้เอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูว่าสุกหรือไม่
  7. เมื่อสุกดีแล้วให้นำขึ้นจากเตาและโรยด้วยต้นหอมตามความชอบเลยค่ะ

ขาหมูเยอรมัน

ขาหมูเยอรมัน ใครที่เคยทานจะต้องติดใจในรสอร่อยกรอบนอกนุ่มใน แม้แต่หนุ่มสาวที่กำลังลดหุ่นก็อดใจไม่ไหว ทำทานเองดีกว่า ไม่ยากอย่างที่คิด ที่แน่ๆประหยัดเงินในกระเป๋าตั้งเยอะ มาดูสูตรกันเลย

สูตร ขาหมูเยอรมัน

ขาหมูเยอรมัน ใครที่เคยทานจะต้องติดใจในรสอร่อยกรอบนอกนุ่มใน แม้แต่หนุ่มสาวที่กำลังลดหุ่นก็อดใจไม่ไหว ทำทานเองดีกว่า ไม่ยากอย่างที่คิด ที่แน่ๆประหยัดเงินในกระเป๋าตั้งเยอะ มาดูสูตรกันเลย!!!!
ขาหมูเยอรมัน (CR: wikipedia)

ส่วนประกอบและเครื่องปรุง:

  1. ขาหมู 1 ขา ถ้าต้องการขาใหญ่ให้ใช้ขาหลัง ขาหลังทานได้ประมาณ 4 คน ส่วนขาหน้าได้ประมาณ 2 คน
  2. หอมหัวใหญ่หั่นซีก 2 หัว
  3. ใบกระวาน 10-12 ใบ
  4. รากผักชีทุบพอแตก 4 ราก
  5. กระเทียมทุบพอแตก 1 หัว
  6. แครอทหั่น 2 หัว
  7. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  8. พริกไทยเม็ดบุบ 1 ช้อนชา
  9. ซีอิ๊วดำแบบหวาน 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนและวิธีทํา ขาหมูเยอรมัน 3 แบบ ทอด/อบ/ย่าง:

**** วิธีเตรียม ขาหมูเยอรมัน ใน 1-4 ทำเหมือนกัน หลังจากนั้นเลือกวิธี ทอด/อบ/ย่าง ได้เลย ****
  1. ขาหมูล้างขูดขนให้สะอาด ใช้เกลือป่นมาทาให้ทั่วขาหมูพักไว้
  2. นำส่วนผสมทุกอย่าง(ยกเว้นซีอิ๊วดำ)เทลงรวมกันในหม้อต้ม ใส่ขาหมูลงไป แล้วใส่น้ำเปล่าพอท่วมขาหมู
  3. ตั้งไฟอ่อนๆ ต้มไปเรื่อยๆนานประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  4. ตักขาหมูขึ้นมาใส่ภาชนะไว้ พอขาหมูเย็นลงให้ใช้ปลายซ่อมแหลมแทงบนหนังหมูให้ทั่ว เมื่อทั่วดีแล้วให้ใช้มีดกรีดเป็น ริ้วๆห่างๆ เอาซีอิ๊วดำมาลูบให้ทั่วหนังหมู (เวลาสุกจะได้สีสวย) ผึ่งลมให้ผิวหนังหมูแห้ง
1) แบบทอด: ตั้งกระทะใส่น้ำมันกะให้พอท่วมขาหมู เปิดไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัด ปิดไฟที่เตา(กันไม่ให้น้ำมันลวกมือเวลาหย่อนขาหมูลงไป) แล้วจึงนำขาหมูใส่ลงไปในกระทะ แล้วเปิดไฟปานกลาง ทอดจนกระทั่งหนังหมูเหลืองกรอบ ก่อนนำขาหมูขึ้น ให้เปิดไฟแรงอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ขาหมูอมน้ำมัน คนเอเชียนิยมทานแบบทอด
2) แบบอบ: เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 250°C เมื่อได้ความร้อนที่ต้องการแล้ว นำขาหมูเข้าอบประมาณ 20-30 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดของขาหมู) อบจนหนังหมูเหลืองกรอบทั่ว คนยุโรปนิยมทานแบบอบ
3) แบบย่าง: ให้ย่างบนเตาย่างแบบบาร์บีคิว ใช้ไฟแรงปานกลาง ย่างจนหนังหมูเหลืองกรอบทั่ว คนออสเตรเลียนิยมทานแบบย่า

ต้มยำกุ้ง

ต้มยำ (ลาวຕົ້ມຍຳ) เป็นซุปไทยที่มีรสเปรี้ยวเผ็ด ต้มยำเป็นอาหารที่รู้จักในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย เช่น ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คำว่า “ต้มยำ” มาจากคำภาษาไทย 2 คำ คือ “ต้ม” และ “ยำ” คำว่า “ต้ม” หมายถึง กิริยาเอาของเหลวใส่ภาชนะแล้วทำให้ร้อนให้เดือดหรือสุก ขณะที่ “ยำ” หมายถึงอาหารลาวและไทยประเภทที่มีรสเปรี้ยวเผ็ด ดังนั้น “ต้มยำ” คือซุปลาวและไทยที่มีความเผ็ดร้อนและเปรี้ยว อันที่จริงคุณลักษณะของต้มยำมาจากความแตกต่างระหว่างความเผ็ดร้อนและความเปรี้ยวและกลิ่นหอมของสมุนไพรในน้ำแกง ที่สำคัญน้ำแกงนั้นประกอบด้วย น้ำต้มกระดูกและเครื่องปรุงส่วนผสมสดได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า น้ำมะนาว น้ำปลาและพริก
ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ชื่อต้มยำ ถูกใช้เรียกน้ำแกงประเภทต่าง ๆ ที่เผ็ดร้อน ซึ่งแตกต่างจากน้ำแกงต้มยำของลาวและไทยดั้งเดิม ทำให้ผู้คนสับสนจากความแตกต่างนี้ต้มยำเป็นอาหารพื้นเมืองที่คนไทยคุ้นเคยดี เพราะมีให้รับประทานทุกภาคและเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติด้วย หนึ่งในเมนูต้มยำที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือต้มยำกุ้ง ต้มยำเป็นอาหารที่ครบรส คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานเล็กน้อย
เครื่องพริกแกงต้มยำสำเร็จรูป ทำจากการบดส่วนประกอบของสมุนไพรเครื่องต้มยำ นำไปผัดในน้ำมันเติมด้วยเครื่องปรุงรสและอื่นที่ช่วยถนอมอาหาร เครื่องพริกแกงต้มยำสำเร็จรูปจะบรรจุขวดหรือบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งขายทั่วโลก เครื่องพริกแกงต้มยำสำเร็จรูปจะมีรสชาดต่างจากการปรุงด้วยเครื่องปรุงสมุนไพรสด ทั้งนี้มักจะเติมเนื้อสด เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมูและกุ้ง เป็นต้น
  • ต้มยำกุ้ง ซึ่งมีกุ้งเป็นส่วนผสมหลัก[1]
  • ต้มยำปลา น้ำแกงใสสูตรโบราณรับประทานกับข้าวสวย เป็นต้มยำที่นิยมแพร่หลายก่อนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาประเทศไทย ปลาสดเป็นที่หาง่ายมีอยู่ทั่วไปในแม่น้ำของทุกภาคลำคลอง บึงรวมทั้งจากทะเล โดยปกติปลาสดเนื้อจะไม่แตกยุ่ยในน้ำเดือดจึงเป็นที่นิยมนำมาทำ
  • ต้มยำไก่ เป็นการทำจากไก่
  • ต้มยำทะเลเป็นการต้มน้ำแกงจากอาหารทะเลรวมได้แก่ กุ้ง ปลาหมีก หอยและเนื้อปลา
  • ต้มยำน้ำข้น ส่วนใหญ่จะทำด้วยกุ้งเป็นส่วนประกอบหลัก เติมนมสดหรือน้ำกะทิเล็กน้อยและพริกแห้งลงในน้ำแกงเป็นขั้นสุดท้าย การดัดแปลงนี้ไม่ทำให้สับสนกับต้มข่าไก่ ซึ่งมีข่าเป็นส่วนประกอบนำของน้ำแกงที่ใส่น้ำกะทิ
  • ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อนน้ำข้น เป็นแบบที่มีกุ้งและเนื้อสดและน้ำกะทิ
  • ต้มยำขาหมูทำจากข้อนิ้วหมู ซึ่งต้องใช้เวลาในการเคี่ยวนาน ในรสยอดนิยมมักจะเติมเห็ด โรยหน้าด้วยผักชี ในบางครั้งจะเติมน้ำพริกเผาเพื่อให้น้ำแกงมีสีสัน เป็นสีส้มและทำให้พริกมีรสชาดจัดขึ้น สูตรต้มยำของลาวจะใส่ข้าวคั่วในน้ำแกงด้วย
ชาวต่างชาติจะรู้จักต้มยำกุ้งมากกว่าต้มยำชนิดอื่นๆ โดยต้มยำจะใส่เนื้อสัตว์หรือผัก-สมุนไพรใเก็ได้
  • การใส่นม หรือกะทิลงไปนั้น บางที่ก็นิยมใส่เพื่อให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น มักจะเรียกว่า ต้มยำน้ำข้น
  • ต้มยำกุ้ง นั้น นิยมใส่มันกุ้งลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นกุ้ง
  • ต้มยำหัวปลา มักจะไม่นิยมใส่นม
  • ถ้าเป็นต้มโคล้งจะใส่น้ำมะขามเปียกแทนน้ำมะนาว และจะใส่หอมแดงสดลงไปด้วย

ส่วนประกอบ[แก้]

ผัก ต้มยำประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มะนาว หรือ บางเมนู อาจจะมีใบกะเพรา ผักชีฝรั่งและโหระพาร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมี เห็ด ต่าง ๆ รวมทั้ง มะเขือเทศ ผักชี
เนื้อสัตว์ ต้มยำปรุงจากเนื้อสัตว์ ต่าง ๆ ได้มากมาย ทั้ง หมู ไก่ ปลา กุ้ง หรือเนื้อวัว ฯลฯ